คลายข้อสงสัยแทงบอลสดต่างจากแทงบอลปกติอย่างไรกัน ??lsm99มีคำตอบ
ว่ากันด้วยการแทงบอลปกตินั้นจะมีอัตราต่อรองตามแต้ม โดยฝ่ายไหนได้แต้มรวมอัตราต่อรองมากกว่าก็เป็นฝ่ายชนะไป และจะได้เงินไปตามอัตราต่อรอง
ส่วนบอลสดนั้นจะเริ่มนับแต้มใหม่กัน หลังจากที่คุณได้ทำการแทงบอลแล้ว ตัวอย่างเช่น แต้มปัจจุบันระหว่างทีม A กับ B เป็น 1 – 0 อัตราต่อรองเป็น 0 หากคุณลงแทงทีม B ไปตอนนี้ และทีม B สามารถทำประตูได้แต้มออกมาเป็น 1 – 1 แต่ในการแทงบอลสดจะมองผลเป็น 0 – 1 นั่นหมายความว่าทีม B ที่คุณได้ทำการแทงลงไปนำอยู่ 1 ลูก โดยจะไม่สนใจแต้มของอีกทีมเลย
รูปแบบการแทงบอลสด
-
แทงบอลสด แบบแทงสูง แทงต่ำ
- ตัวอย่าง การแทงสูง เช่น อัตราต่อรอง 2.5 แล้วคุณแทงสูง ถ้าผลคะแนนออกมาเป็น 2 – 1 นั่นคือคุณชนะ และได้เงินรางวัล เพราะผลคะแนนรวมกันเป็น 3 ซึ่งสูงกว่าอัตราต่อรอง 2.5 แต่ถ้าผลคะแนนอกมาเป็น 1 – 1 คุณจะแพ้เพราะคะแนนรวมกันเป็น 2 ต่ำกว่าอัตราต่อรอง 2.5
- ตัวอย่าง การแทงต่ำ เช่น อัตราต่อรอง 0.5 แล้วคุณแทงต่ำ ถ้าผลคะแนนออกมาเป็น 0 – 0 นั่นคือคุณชนะ และได้เงินรางวัล เพราะผลคะแนนรวมกันเป็น 0 ซึ่งต่ำกว่าอัตราต่อรอง 0.5 แต่ถ้าผลคะแนนอกมาเป็น 1 – 0 คุณจะแพ้เพราะคะแนนรวมกันเป็น 1 สูงกว่าอัตราต่อรอง 0.5
-
แทงบอดสดแบบ 1×2
การแทงบอลสดแบบนี้เป็นการเลือกแทงบอลว่าทีมไหนจะฝ่ายชนะ หรือผลคะแนนที่ออกมาจะเสมอ ซึ่งการแทงบอลแบบนี้จะไม่สนใจอัตราต่อรอง แค่ทีมที่คุณเลือกแทงชนะก็พอ และคุณยังสามารถเลือกแทงว่าผลจะออกมาเสมอได้อีกด้วย
-
แทงบอลสดแบบ Full Time และแบบ Half Time
ในการแทงบอลสดนั้น คุณสามารถเลือกแทงได้เป็น 2 เวลา นั่นคือ แบบเต็มเวลา และแบบครึ่งเวลา (ครึ่งแรก) ดังนี้
- แบบ Full Time คือ แบบเต็มเวลา โดยการแทงบอลสดแบบเต็มเวลา คุณสามารถเริ่มแทงบอลสดได้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน จนถึงเวลาก่อนหมดครึ่งหลังประมาณ 1-3 นาที
- แบบ Half Time คือ ครึ่งเวลา(ครึ่งแรก) โดยการแทงบอลสดแบบครึ่งแรก คุณสามารถเริ่มแทงบอลสดได้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน จนถึงเวลาก่อนหมดครึ่งแรกประมาณ 10 นาที
สรุป
การแทงบอลสดต่างจากแทงบอลปกติอยู่หลายข้อ ทำให้นักพนันบอลต่างก็นิยมแทงบอลสด เพราะสามารถเพิ่มโอกาสให้คุณชนะได้เงินมาก เนื่องจากการแทงบอลสดมีการอัพเดตราคา และคะแนนที่แสดงให้ดูกันแบบนาทีต่อนาทีเลย คุณสามารถแทงบอลสดได้ผ่านทางเว็บแทงบอลออนไลน์ที่ให้บริการโดยเลือกเว็บที่อัพเดตข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำ